Category: ฮวงจุ้ย

ยอดขายไม่ปัง! อยากได้กำไร ต้องมี 3 สิ่งนี้!!

ในการค้าขายแน่นอนว่าผลกำไร หรือสิ่งตอบแทนที่ได้รับจากการค้าขายนั้นก็มักจะมีการขยับขึ้น และขยับลงอยู่ในทุก ๆ วันแต่หากคุณกำลังประสบปัญหายอดขายไม่ปัง และอยากได้กำไรวันนี้มันตระสยามมี 3 สิ่งที่อาจารย์แขกได้แนะนำไว้ ซึ่งบอกเลยว่า 3 สิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มยอดขายของคุณให้มากยิ่งขึ้น และยังทำให้การค้าของคุณสามารถเติบโตใดอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นอีกด้วย จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันได้เลย             การค้าขาย หรือ การทำธุรกิจทุกประเภทเรื่องยอดขายนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญโดยเฉพาะในเรื่องของผลกำไรที่ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าเป็นประเด็นหลักที่ทำให้ธุรกิจจะยังสามารถเดินต่อได้ อีกทั้งในปัจจุบันสภาวะของเศรษฐกิจที่ทำให้หลาย ๆ คนนั้นกลับมาทำอาชีพเสริมมากยิ่งขึ้นเหล่านี้ก็เหมือนกับการแข่งขันทางการตลาดที่จำเป็นจะต้องใช้กลยุทธ์ในการเรียกลูกค้าให้เข้าร้านอีกด้วย และหากพบว่ายอดขายของคุณไม่ปังหรือยังน้อยเกินไปไม่คุ้มกับสิ่งที่ได้ลงทุนไปเลยนั้นควรทำ 3 สิ่งนี้ อย่างที่ 1              หากอยากได้ผลกำไรในการประกอบการที่ดีที่สุดสิ่งที่ควรมีเลยนั่นก็คือเรื่องของความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสถานที่ หรือในด้านการตั้งขายของก็ดีซึ่งหากอยากขายดี หรือมีกำไรที่งอกงามสถานที่แห่งนั้นจะต้องเป็นสถานที่ที่รับพลังงานดี ๆ เข้ามาโดยเป็นสถานที่ที่รับทรัพย์ดึงดูดทรัพย์ และยังสามารถกักเก็บพลังงานได้ดี และตามหลักวิชาฮวงจุ้ยในระบบเสาเหมาซานแนะนำให้มีการปรับปรุงพื้นที่ในการค้าขายให้เกิดความสะอาดและเป็นระเบียบอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการขายแบบมีหน้าร้านหรือไม่มีหน้าร้านก็ตาม เพราะพลังงานดีเกิดจากการหมุนเวียนที่เป็นระเบียบ และมีความมั่นคงเพื่อทำให้การไหลผ่านของทรัพย์ดีมากยิ่งขึ้นนั่นเอง อย่างที่ 2              สิ่งที่ 2 ที่จะช่วยให้การค้าของคุณนั้นเกิดความสำเร็จ และมียอดขายที่ดีมาก ๆ นั้นก็คือการมีลูกค้าที่เข้าร้านอยู่ตลอดเวลา หรือที่เรียกว่าไฟในวิชาฮวงจุ้ย ซึ่งไฟนับว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สามารถทำให้ธุรกิจของคุณดีขึ้นได้ด้วยไฟเพียงหลอดเดียว และในวิชาฮวงจุ้ยระบบต่อเหมาซานก็ยังหมายถึงความสว่างซึ่งจะสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าร้านค้าร้านใดก็ตามที่เปิดไฟอย่างสว่างไสวอยู่ตลอดเวลาจะทำให้ผู้ที่ได้พบเห็น หรือลูกค้านั้นเกิดการตัดสินใจที่จะเข้าไปซื้อของในร้านนั้นมากกว่าร้านที่มีความอึมครึมดูหม่นหมอง ดังนั้นในตอนนี้ หากใครที่กำลังประสบปัญหาธุรกิจการค้าไม่ราบรื่นหรือยอดขายไม่เพิ่มขึ้นอยู่นั้น อย่าลืมเปลี่ยนหลอดไฟให้มีความสว่างไสวเกิดขึ้นภายในร้านจะช่วยให้ฮวงจุ้ยร้านของคุณกลับมาดีขึ้นได้อย่างง่ายดาย อย่างที่…

Read story

3 จุดเสี่ยงในบ้าน ทำงานหนักแต่ได้เงินน้อย

เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า ทำไมคุณนั้นทำงานหนักแต่ยังได้เงินน้อยอยู่ วันนี้เราจะพาคุณมาดูกับ 3 จุดเสี่ยงในบ้านที่เรียกได้ว่าเป็นชนวน หรือสาเหตุหลักที่ทำให้คุณนั้นทำงานอย่างหนักแต่ผลประกอบการ หรือเงินที่ได้รับมานั้นมีความน้อย และดูไม่เหมาะสมกับงานที่ได้รับมานั้นทำให้เกิดความท้อแท้ และความเหนื่อยล้ารวมไปถึงการเบื่อหน่ายจากการทำงานได้อยู่ไม่น้อย แถมยังทำให้พลังงานเชิงบวกของคุณลดน้อยถอยลงไปอีกด้วย แล้วจะมีจุดเสี่ยงใดในบ้านที่ควรระวังกันบ้างนั้นก็มาดูกันได้เลย หน้าต่างบ้าน             หน้าต่างบ้าน จุดแรกที่คุณจะต้องสังเกตให้ดีภายในบริเวณบ้านของคุณ หากบ้านของคุณมีหน้าต่างบ้านที่มากเกินไปก็จะทำให้พลังงานภายนอกเข้ามาสู่ตัวบ้านได้เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้พลังงานในตัวคุณมีความกระตือรือร้นและต้องทำงานหลาย ๆ อย่างพร้อมกันซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับผลประกอบการหรือเงินที่ได้รับมานั้นดูไม่สมเหตุสมผล และดูน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นจึงควรทำหน้าต่างบ้านเอาไว้แต่พอเหมาะไม่ควรทำมากเกินไปจึงจะดีที่สุด ห้องในตัวบ้าน             ห้องในตัวบ้าน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คุณต้องทำงานเยอะแต่ได้เงินน้อยอีกเช่นเดียวกัน  ซึ่งในแต่ละบ้านนั้นอาจจะมีห้องน้อยแต่ขนาดห้องไม่ Balance กับตัวบ้านเสียเท่าไหร่ หรือการที่ห้องนั้นมีมากจนเกินไปไม่พอดีกับตัวอาคาร ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดพลังงานมากแต่ได้เงินน้อยนั่นเอง เตาครัว             เตาครัว ในปัจจุบันจะมีหลากหลายประเภทมาก ๆ แต่ที่เราจะเห็นกันบ่อยที่สุดในสมัยนี้เลยก็คือ เตาครัวที่มีหลาย ๆ หัวตั้งแต่ 2 หัวขึ้นไปจนถึง 6 หัวก็ยังมีให้เห็นซึ่งแน่นอนว่าในบางคนใช้งานเพียงแค่หัวเดียวเท่านั้น และถือว่าสิ่งนี้ทำให้เกิดความไม่สมดุลระหว่างการใช้งาน และจำนวนของหัวเตาที่มากจนเกินไปก่อให้เกิดพลังงานที่ต้องทำงานมาก แต่ได้เงินน้อยจะทำให้คุณมีความกระตือรือร้นอย่างหนักแต่ไม่คุ้มค่ากับผลตอบแทนที่ได้รับเสียเท่าไหร่             เพราะฉะนั้นหากใครที่กำลังรู้สึกถึงปัญหาเหล่านี้อยู่ลองดูจุดต่าง ๆ บริเวณบ้านของคุณเหล่านี้ว่ามีจุดไหนที่เสี่ยง เสี่ยงต่อการทำให้พลังงานมากแต่ได้เงินน้อยอยู่ หรือไม่ หากมีให้รีบแก้ไขเพื่อที่จะทำให้คุณได้รับพลังงานดี ๆ เข้ามาในชีวิต…

Read story

พระแม่สรัสวดี เทวีแห่งปัญญาความรู้

หากจะพูดถึงเทวีแห่งปัญญา และความรู้แล้วพระแม่สรัสวดีถือเป็นอีกหนึ่งเทวีในฮินดูที่มีผู้นิยมบูชาเป็นอย่างมาก และยังเป็นเทวีแห่งปัญญาความรู้ที่ว่ากันว่า หากผู้ใดที่ได้บูชาจะได้รับการประทานพรทั้งด้านปัญญาทรัพย์สิน รวมไปถึงความสมบูรณ์ในชีวิตอีกด้วย ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับพระแม่สรัสวดี  และวิธีการบูชาว่าควรบูชาอย่างไรจึงจะสัมฤทธิ์ผล  และได้รับพรอันประเสริฐมาดูกันได้เลย             พระแม่สรัสวดี หรือ พระสุรัสวดี คือ ชายาของพระพรหมถือเป็นเทพแห่งพระเวททั้งปวง ซึ่งเปรียบเสมือนกับครูอาจารย์ และวิทยากรพระท่านคือเทวีแห่งสรรพความรู้ และยังมีวิชาการอันล้ำลึกวิทยาการหลากหลายแขนงก้าวหน้าโดยมีความเชื่อว่าพระองค์เป็นธิดาแห่งพระทักษะ และนางประสูติ และอีกหนึ่งความเชื่อเชื่อว่าในมหากาพย์มหาภารตะนั้นว่ากันว่า พระกฤษณะคือผู้สร้างพระสุรัสวดี และคัมภีร์พระเวทขึ้นมาพร้อมกันจากจิตใจของพระองค์เอง             ซึ่งพระแม่ผู้นี้ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งงานศิลปะทุกแขนง รวมไปถึงการว่าเขียนอักษรศาสตร์การแต่งตำราการดนตรี และการเขียนหนังสือมีความปรีชาญอันแจ่มแจ้งชอบศึกษาหาความรู้ และการเล่าเรียนเป็นอย่างยิ่ง โดยพระองค์ยังเป็นผู้ให้กำเนิดบทสวดมนต์บทแรกของจักรวาลอีกด้วย โดยชาวฮินดูนับถือพระสรัสวดีให้เป็นเทวีแห่งเวทมนต์คาถา รวมไปถึงการประกอบพิธีกรรม ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่มีการประกอบพิธีบูชาเทพ หรือเทศกาลใด ๆ หากอัญเชิญพระพิฆเนศเป็นเทพองค์แรกก็จะทำให้พิธีนั้นเกิดความเป็นสิริมงคลขึ้นได้ และเช่นเดียวกันการอัญเชิญพระแม่สรัสวดีรวม ด้วยก็จะทำให้การสวดมนต์ และการประกอบพิธีกรรมในทุกขั้นตอนเป็นไปได้อย่างศักดิ์สิทธิ์ และมีพลังที่มากขึ้น             ลักษณะของพระแม่สรัสวดีคือมี 4 พระหัตถ์ 2 พระหัตถ์ทรงเครื่องดนตรีที่เรียกว่าวีณา หรือจะเข้ของอินเดีย และพระหัตถ์ข้างอื่น ๆ ถือลูกประคำคัมภีร์พระเวทมีหงส์ประทับบนดอกบัวสีขาวมีพาหนะเป็นหงส์ และนกยูงอยู่เคียงข้างโดยวันบูชาพระแม่สรัสวดีที่ดีที่สุด คือเทศกาลวสันตะปัญจะมี โดยจะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 ของทุกปี และมีการประกอบพิธีบูชาทั้งวันทั้งคืน…

Read story

เปิดตำนาน เจ้าแม่ทับทิม

ในเมื่อเรื่องของความเชื่อเป็นสิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติ และธรรมชาติก็ยังเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์มาตั้งแต่สมัยโบราณนั้นถือว่า ความเชื่อนี้ก็เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ เพื่อทำให้เกิดความมั่นคง และปลอดภัยอย่างการที่ได้รู้จักกับเจ้าแม่ทับทิมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกป้องคุ้มครองมาพร้อมกับการบูชากราบไหว้ตามความเชื่อ ก็จะทำให้ผู้บูชาหลุดพ้นจากความทุกข์ยากลำบากความเดือดร้อนไปได้             เจ้าแม่ทับทิม คือ เทพแห่งสายน้ำ ที่คอยปกปักรักษาผู้ที่เดินทางสัญจรด้วยเรือ โดยมีความเชื่อว่าหากจะต้องออกเรือเมื่อใดก็จะต้องมีการบูชา และประกาศให้เจ้าแม่ทับทิมรับทราบถึงการเดินทางในทุก ๆ ครั้งเพื่อที่จะทำให้การเดินเรือนั้นสามารถถึงจุดมุ่งหมายได้อย่างปลอดภัย ตามตำราได้เล่าว่าเจ้าแม่ทับทิมเกิดอยู่ในครอบครัวของขุนนางที่เมืองจีนบนเกาะเหมยโจ้ว มณฑลฝูเจี้ยนประเทศจีนซึ่งมีบิดาเป็นผู้ตรวจราชการของแผ่นดิน และมารดาเป็นผู้ที่มีจิตใจโอบอ้อมอารีชอบช่วยเหลือผู้อื่นที่ได้รับความทุกข์ยาก และเดือดร้อนอยู่เสมอมีจิตใจที่เที่ยงตรงในพุทธศาสนา ดำเนินชีวิตด้วยหลักทำนองทองคำของศาสนา และยังนับถือพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมเป็นอย่างมาก             วันหนึ่งทั้งสองได้สวดมนต์อ้อนวอนขอพรจากเจ้าแม่กวนอิมให้ประธานบุตรให้ และไม่ช้าก็เกิดเรื่องน่าประหลาดขึ้นเมื่อย่างเข้าสู่เดือนที่ 6 ผู้เป็นบิดาก็ได้ฝันว่า เจ้าแม่กวนอิมได้ลงมาประทานยาวิเศษให้กับภรรยากินหลังจากนั้นเวลาไม่นานนักภรรยาก็ได้ตั้งครรภ์เมื่ออายุครรภ์ครบ 9 เดือนถึงกำหนดคลอดก่อเกิดปฏิหาริย์มีแสงสว่างส่องเข้ามาในตัวบ้านมีกลิ่นหอมเย็นสดชื่นตลบ อบอวลไปทั่วทั้งบ้าน และในวันรุ่งขึ้นก่อเกิดเรื่องน่าประหลาดใจขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเทือกเขาที่อยู่ใกล้บ้านเปลี่ยนเป็นสีส้มไปหมด             ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านเชื่อว่าจะมีผู้มีบุญลงมาเกิดในโลกมนุษย์ และในวันนั้นเองภรรยาของท่านก็ได้คลอดเจ้าแม่ทับทิมออกมา ซึ่งเป็นเด็กที่มีหน้าตาน่ารักผิวพรรณสวยงามต่างจากเด็กทั่ว ๆ ไปในหมู่บ้านอีกทั้งยังไม่ร้องไห้ และไม่คร่ำครวญเหมือนเด็กทั่ว ๆ ไปบิดาจึงได้ตั้งชื่อท่านว่า “ลิ้มมิก” ซึ่งหมายถึงความเงียบขรึมในภาษาจีนนั่นเอง เมื่อลิ้มมิก อายุได้ 8 ขวบก็ได้เข้าเรียนหนังสือ ซึ่งก็ทำให้อาจารย์ผู้สอนต้องปลัดใจเป็นอย่างมากเมื่อเธอสามารถอ่านหนังสือได้อย่างแตกฉาน และรวดเร็วกว่าเด็กคนอื่น ๆ สามารถจดจำทุกสิ่งที่อาจารย์สอนได้เป็นอย่างดี และยังว่ายน้ำเก่งแต่ไม่ค่อยออกไปเล่นกับเด็กในวัยเดียวกันสักเท่าไหร่เพราะเธอมักจะฝึกสมาธิและปฏิบัติธรรมเสียมากกว่า             เมื่ออายุได้ 13…

Read story

สิ่งของที่ไม่ควรมีไว้ในบ้านตามหลักฮวงจุ้ย

แน่นอนว่าบ้านทุกหลังจะต้องมีสิ่งของสำคัญที่เรานั้นจะเก็บรักษาเอาไว้อย่างดี แต่รู้หรือไม่ว่าบางทีสิ่งของเรานั้นก็อาจเป็นสิ่งที่ไม่ควรมีไว้ในบ้านตามหลักฮวงจุ้ยก็เป็นได้ แล้ววันนี้เราจะพาทุกท่านมาดูกันกับ 7 สิ่งของที่ไม่ควรมีเอาไว้ในบ้าน เพราะอาจทำให้สิ่งที่ไม่เป็นมงคลเข้ามาในบ้านได้ ซึ่งจะมีอะไรที่ไม่ควรมีไว้ในบ้านตามหลักฮวงจุ้ยบ้างนั้นเอามาดูกันได้เลย นาฬิกาตาย นาฬิกาตาย เป็นสิ่งที่ไม่ควรเก็บเอาไว้ภายในบ้านเลยทีเดียว เพราะตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่านาฬิกาที่ตายหรือนาฬิกาที่แตกหักจะทำให้เกิดความสูญเสีย หากไม่อยากทิ้งนาฬิกาเรือนนั้นก็ควรนำไปใส่ถ่านหรือซ่อมแซมให้เกิดความเรียบร้อย จานชามที่แตกแล้ว สิ่งของที่แตกหักหรือจะชามที่แตกแล้ว ไม่ควรเก็บไว้ในบ้านเป็นอันขาดและบอกเลยว่าไม่ต้องเสียดายสิ่งเหล่านี้ เพราะสิ่งเหล่านี้นี่แหละที่จะทำให้มีปัญหาด้านลบเข้ามาในชีวิต รวมไปถึงภายในบ้านได้และมักจะทำให้คุณนึกถึงใจเรื่องแย่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ผนังสีเขียว การทาผนังสีเขียว ถึงแม้จะเป็นสีแห่งธรรมชาติ แต่รู้หรือไม่ว่าตามหลักฮวงจุ้ยนั้นไม่แนะนำให้ทาผนังสีนี้เท่าไหร่เพราะถือว่าเป็นผนังอัปมงคล ประตูสีดำ ประตูที่มีสีดำ ถึงแม้จะเป็นสียอดฮิตที่กำลังมาแรงแต่ตามหลักฮวงจุ้ยนั้นถือว่าประตูสีดำจะนำพามาซึ่งความโชคร้ายต่าง ๆ ประตูก็เปรียบเสมือนดวงตาที่เปิดรับสิ่งต่าง ๆ เข้ามาซึ่งเมื่อประตูมีสีดำก็อาจจะนำมาซึ่งความชั่วร้ายและทำให้สิ่งไม่ดีเข้ามาในตัวบ้านได้ ยกเว้นการที่ประตูหันไปทางทิศเหนือก็ไม่มีสิ่งใดเป็นกังวล ปฏิทินเก่า ตามหลักฮวงจุ้ยปฏิทินเก่าที่เก็บไว้นั้นจะมีการแสดงวันเดือนและปีที่ผิดไปจากเวลาในปัจจุบัน ซึ่งมันจะเป็นการสะท้อนภาพเหตุการณ์ในอดีตต่าง ๆ ที่ผ่านมานั้นทำให้เกิดความคิดในเชิงลบหรือปัญหาต่าง ๆ ที่ตามมาได้ ต้นไม้ที่ตายแล้ว ต้นไม้ที่ตายแล้ว ถ้าถูกเก็บไว้ในบ้านจะเปรียบเสมือนการเปิดทางให้สิ่งเลวร้าย รวมไปถึงโชคร้ายได้เข้ามาสู่ตัวบ้านซึ่งนั่นก็ส่งผลต่อผู้ที่อาศัยอยู่ภายในบ้านเช่นเดียวกัน เก้าอี้ที่ชำรุดหรือเก้าอี้ที่ไม่ได้ใช้งาน หากในบ้านของคุณมีเก้าอี้ที่ไม่ได้ใช้งานหรือเก้าอี้ที่ชำรุดแล้วและยังวางอยู่เฉย ๆ เพื่อเป็นการตกแต่ง ตามหลักฮวงจุ้ยมีความเชื่อว่าเก้าอี้เหล่านี้นี่แหละ ที่จะทำให้พลังงานในด้านมืดต่าง ๆ เข้ามาสิงสู่หรือนั่งอยู่บนเก้าอี้นี้แทน ซึ่งก็แน่นอนว่าจะนำมาซึ่งความโชคร้ายและความสูญเสียภายในบ้านได้

Read story

ฮวงจุ้ยบ้านไม่ดี อาจอยู่ไม่เป็นสุข

บ้าน คือ ที่อยู่อาศัยของมนุษย์ทุกคนที่เรียกได้ว่าเป็นจุดรวมพลังงานทั้งดีและไม่ดีเอาไว้ซึ่งนั่นก็ขึ้นอยู่กับฮวงจุ้ยบ้านเป็นหลัก หากทางที่ตั้งบ้านมีฮวงจุ้ยที่ดีก็จะทำให้พลังงานดี ๆ นั้น เข้าสู่ตัวบ้านได้อย่างง่ายดายส่งผลต่อผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านได้รับผลพลอยได้จากพลังงานดี ๆ เหล่านี้ไปด้วย แต่ในทางกลับกันหากฮวงจุ้ยบ้านไม่ดีนั้น ก็อาจทำให้ชีวิตของคุณอยู่ไม่เป็นสุขอีกเช่นเดียวกัน ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกท่านมาดูกันว่าฮวงจุ้ยบ้านที่ไม่ดีเป็นอย่างไร โดยตำแหน่งบ้านที่ไม่ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยมีดังนี้ บ้านอยู่บริเวณทางโค้ง บ้านที่อยู่บริเวณทางโค้งนั้น ตามหลักฮวงจุ้ยมีความเชื่อว่าจะทำให้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับคนในครอบครัว รวมไปถึงในเรื่องของการงานก็ยังไม่ราบรื่นธุรกิจส่วนตัวที่ทำอยู่ก็อาจไม่ประสบผลความสำเร็จหรือทำการค้าไม่ขึ้น แต่ก็สามารถแก้ได้โดยการนำกระจกมาติดบริเวณบ้านเพื่อสะท้อนสิ่งที่ไม่ดีออกไปสู่ภายนอก บ้านอยู่บริเวณทางสามแพร่ง บ้านที่อยู่บริเวณทางสามแพร่งเชื่อว่าเป็นทางผีผ่าน และตามหลักฮวงจุ้ยก็ยังถือเป็นทิศทางอัปมงคลที่เชื่อว่ามีพลังงานด้านลบอยู่ในบริเวณนี้เยอะมาก ๆ ทำให้ผู้คนในบ้านนั้นในประสบผลสำเร็จในเรื่องใดเรื่องหนึ่งแม้แต่เรื่องเดียว ซึ่งส่วนนี้สามารถแก้ได้ โดยการนำกระจกแปดเหลี่ยมมาติดไว้บริเวณหน้าบ้านเพื่อสะท้อนสิ่งไม่ดีออกไป บางที่ไม่มีรั้วบ้าน บ้านหลังไหนที่ไม่มีรั้วถือว่าผิดตามหลักฮวงจุ้ยมาก ๆ ซึ่งรั้วบ้านถือเป็นสิ่งที่ปกป้องคุ้มครองคนในบ้านเอาไว้หากไม่มีรั้วบ้านก็อาจทำให้คนในบ้านนั้นมีปัญหาในเรื่องของการเงินและยังไม่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ซึ่งควรสร้างรั้วบ้านให้ไม่สูงเท่ากันกับขอบกำแพงเพราะอาจทำให้เงินทองฝืดเคืองได้ บ้านที่อยู่บริเวณแม่น้ำ ตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว มีความเชื่อว่าน้ำจะพัดพาเอาเงินทองออกไป ดังนั้นการสร้างบ้านอยู่บริเวณริมแม่น้ำ ก็อาจทำให้เงินทอง รวมไปถึงชื่อเสียงต่าง ๆ ไหลออกไปได้เช่นเดียวกัน บ้านที่สูงกว่าพื้นถนน หากบ้านใดที่มีการสร้างพื้นบ้านให้สูงกว่าถนนนั้น ตามหลักฮวงจุ้ย มีความเชื่อว่าอาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเงินทอง รวมไปถึงการงานได้ บนกำแพงของบริเวณบ้านมีเหล็กดัด ตามหลักฮวงจุ้ยแล้วมีความเชื่อว่าหากบนกำแพงของบริเวณบ้านมีเหล็กดัดอยู่ อาจทำให้เกิดเรื่องร้อนใจรวมไปถึงปัญหาเรื่องเงินทองได้เป็นอย่างมาก กำแพงขรุขระไม่สวยงาม กำแพงที่ขรุขระดูไม่สวยงามและไม่สม่ำเสมอนั้น ตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่าจะทำให้ผู้คนในบ้านมีแต่อุปสรรคในชีวิตมากมาย รวมไปถึงยังเกิดปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเงินทองอีกด้วย สีบ้านเกิดการหลุดร่อน สีบ้านที่ดี จะต้องไม่หลุดร่อนและผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านยังต้องมีการทำนุบำรุงบ้านให้ดูดีเสมอ ซึ่งหากปล่อยให้เกิดความเสื่อมโทรม นอกจากจะทำให้บ้านเกิดความสวยงามน้อยลงแล้ว…

Read story

เปิดตำรา 10 ฮวงจุ้ยบ้านที่ดี

การอยู่อาศัยภายในบ้าน แน่นอนว่าหากฮวงจุ้ยบ้านของคุณดีก็จะทำให้พลังงานดี ๆ หลั่งไหลเข้ามาภายในบ้านของคุณมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้ที่อาศัยอยู่ภายในบ้านนั้น ได้รับความผาสุก และมั่งมี ในเรื่องของโชคลาภเงินทอง รวมไปถึงการงานการเงินอีกด้วย ในทางกลับกันหากฮวงจุ้ยบ้านที่ไม่ดีก็อาจสร้างหายนะ และผลเสียเข้ามาได้อีกเช่นเดียวกัน ดังนั้น วันนี้เราจะพาทุกท่านมาเปิดตำราดู 10 ฮวงจุ้ยบ้านที่ดีว่าจะมีฮวงจุ้ยแบบไหนที่ช่วยเสริมให้บ้านของคุณนั้นดูดีพร้อมรับโชครับทรัพย์เข้าบ้านแบบจัดหนักจัดเต็มกันบ้าง ทิศทางของบ้าน ทิศทั้งของบ้าน ถือเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งการวางตัวบ้านนั้นควรเข้าหาทางทิศใต้หรือทิศเหนือเพื่อเป็นการเปิดรับพลังงานลมธรรมชาติให้พัดอยู่ตลอดทั้งปี และยังหลีกเลี่ยงแสงแดดแม้ให้เข้าส่องตัวบ้านโดยตรงเพื่อทำให้บ้านเกิดความร่มรื่น และมีอากาศที่ถ่ายเทได้อย่างสะดวกสบายซึ่งตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว หากวางทิศของบ้านไปทางทิศใต้จะช่วยเสริมดวงในเรื่องของชื่อเสียงเกียรติยศได้เป็นอย่างดี แต่หากวางฮวงจุ้ยไว้ทางทิศเหนือก็จะทำให้ผู้ที่ประกอบธุรกิจการค้าขายมีโชคลาภในด้านเงินทองค้าขายมั่งมี ทำเลที่ดี ทำเลที่ดิน ที่ดีจะช่วยเสริมให้ฮวงจุ้ยบ้านรับโชคไปได้มากกว่าครึ่ง ซึ่งควรอยู่ในพื้นที่เรียบบริเวณบ้านจะต้องไม่มีต้นไม้ สุสาน ป่าช้า หรือ ที่ทิ้งขยะประกบข้างกัน ส่วนถนนหน้าบ้านก็จะต้องไม่ติดอยู่กับถนน 3 หน้าผาบนทางระบายน้ำ หรือ เนื้อที่ดินที่มีความแคบ และพื้นลึกเกินไป จะทำให้ฮวงจุ้ยบ้านรวยมากโชคทรัพย์พัดเข้ามาตลอดร่ำรวยมีความสุข ประตูบ้าน ประตูบ้านถือเป็นด่านแรกของการรับทรัพย์ ซึ่งผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านนั้นจะได้รับความมั่งคั่ง และมีความสุขในระยะ 45 องศาของหน้าประตูโดยไม่มีสิ่งใดกีดขวาง หรือบดบังตัวประตูบ้าน และห้ามให้ประตูหน้าอยู่ตำแหน่งตรงกับหน้าต่างบันได ประตูหลังบ้าน รวมไปถึงประตูอื่น ๆ ภายในบ้านอีกด้วย เพราะอาจทำให้ทรัพย์สินเงินทองนั้นรั่วไหลออกไปได้ การรับแสงแดดและรับลม บ้านที่ดี และน่าอยู่จะต้องมีหน้าต่างให้พอรับแสงแดด และรับลมจากธรรมชาติในยามกลางวันที่เพียงพอ…

Read story

รั้วบ้าน จุดอันตรายของฮวงจุ้ย

ในสังคมปัจจุบันนี้ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้คนในบ้านคิดริเริ่มการสร้างรั้วบ้านขึ้นมา และแน่นอนว่าหลาย ๆ คนก็อาจจะยังไม่รู้ว่าตามหลักของฮวงจุ้ยแล้วรั้วบ้านนี้ถือเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ ต่อตัวบ้าน และยังสามารถแบ่งสัดส่วนของเขตกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือพื้นที่อาณาเขตของผู้ที่เป็นเจ้าของบ้านนั้น ๆ ได้อย่างชัดเจนอีกด้วยในวันนี้เราจะพาทุกท่านมาดูกันว่ารั้วบ้านนี้ที่ตามหลักฮวงจุ้ยมองว่าดีนั้นจะสามารถเป็นจุดอันตรายของฮวงจุ้ยได้อย่างไรบ้างมาติดตามกันได้เลย             รั้วบ้านถือเป็นส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งของบ้าน อีกทั้งยังเปรียบเสมือนกับเกาะชั้นนอกที่ช่วยปกป้องอันตรายจากภายนอกได้ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลสัตว์หรือสิ่งอันตรายต่าง ๆ ที่จะพุ่งเข้าหาบ้านรวมไปถึงสมาชิกภายในบ้านได้อีกด้วย แต่ก็ยังมีรั้วบ้านที่จะส่งผลเสียกับฮวงจุ้ย และไม่เหมาะกับการมีรั้วแบบนี้อยู่ในบ้านของคุณโดยรั้วเหล่านั้นก็มีดังนี้ เขตอันดับที่ 1 หากเรายังอยู่ภายในตัวบ้านแล้วมองออกไปบริเวณตัวหน้าบ้าน แล้วสามารถมองเห็นชัยภูมิภายนอกได้อย่างชัดเจนกว้างขวางไม่มีอะไรบังสายตา นั่นหมายความว่าคุณจะสามารถรับพลังงาน และโชคลาภที่ดีเข้าสู่ตัวบ้านได้อย่างง่ายดาย ในทางกลับกันหากรั้วบ้านที่มองออกไปไม่เห็นชัยภูมิภายนอกได้ชัดเจนหรือมีสิ่งใดที่บดบังวิสัยทัศน์เหล่านั้นมากเกินไปก็จะทำให้พลังงาน และโชคลาภแห่งความสำเร็จนั้นไม่เข้าสู่ตัวบ้านได้เช่นเดียวกัน เขตอันดับที่ 2 รั้วบ้านที่เป็นเหล็กดัดมีลักษณะเป็นปลายแหลมโค้งเข้าหาตัวบ้านตัวลักษณะนี้ ถือเป็นรั้วที่น่ากลัวมากในวิชาฮวงจุ้ยซึ่งตามหลักแล้วระบบเต๋าเหมาซานการมีสิ่งที่มีลักษณะเป็นปลายแหลม หรือมุมแหลมพุ่งเข้าสู่ตัวบ้านนั้นจะทำให้ผู้คนในบ้านถูกทิ่มแทงจากสิ่งเลวร้ายอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของปัญหาสุขภาพศัตรูการงานการเงินรวมไปถึงในเรื่องของโชคลาภ และเงินทองอีกด้วย เขตอันดับที่ 3 รั้วปูนที่ถูกนำเศษแก้วหรือเศษกระเบื้องแตกมาวางไว้ตามขอบเพื่อป้องกันการปีนรั้วจากคนที่ไม่ดี หรือขโมย ตามหลักฮวงจุ้ยในระบบต่อหมอฟันบอกไว้ว่าสิ่งเหล่านี้จะมีผลไม่ต่างกับเขตอันดับที่ 2 เพราะสิ่งที่นำมาติดเอาไว้มีลักษณะเป็นปลายแหลมที่เข้าหาตัวบ้านอีกเช่นเดียวกัน และนอกจากนี้ก็ยังมีผลกระทบกับระบบสายตาของผู้ที่อาศัยอยู่ภายในบ้าน ซึ่งก็อาจทำให้เกิดเป็นโรคต้อได้             ดังนั้นลองหันกลับไปมองที่รั้วบ้านของคุณว่าเป็นตามลักษณะของเขตอันดับทั้ง 3 เหล่านี้หรือไม่ หากเป็นเช่นนี้แนะนำให้รีบปรับปรุงแก้ไขเพื่อกำจัดพลังงานที่ไม่ดีออกไปให้พ้นจากบ้านของคุณ และเปลี่ยนแปลงให้เป็นรั้วบ้านที่ถูกต้องตามหลักของฮวงจุ้ยเพื่อนำเอาพลังงานดี ๆ และโชคลาภเงินทองต่าง ๆ ให้หลั่งไหลเข้าสู่ตัวบ้านเพื่อสร้างความสุขให้กับผู้คนในบ้านได้นั่นเอง https://www.youtube.com/watch?v=PLc9Axbu_uk

Read story

รู้จัก ฮวงจุ้ย ระบบ เต๋าเหมาซาน

เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับฮวงจุ้ยระบบเต๋าเหมาซานกันมาบ้าง แต่อาจจะยังไม่รู้ถ่องแท้ว่าฮวงจุ้ยในระบบนี้คืออะไร เพราะคิดเพียงว่าฮวงจุ้ยก็คือฮวงจุ้ย ซึ่งเป็นหลักในการปรับเปลี่ยนและแก้ไขสิ่งต่าง ๆ ให้ดูดีและถูกต้องตามตำราเพื่อรับพลังงานดี ๆ เข้ามาในตัวบ้านมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงอยากพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับฮวงจุ้ยระบบเต๋าเหมาซานกันว่าคืออะไร และมีสิ่งใดที่น่าสนใจเกี่ยวกับฮวงจุ้ยในระบบนี้กันบ้าง             ฮวงจุ้ยระบบเต๋าเหมาซาน คือ พลังงานที่มีอยู่จริงในโลกและเป็นพลังงานที่ถูกถ่ายทอดความรู้มาตั้งแต่บรรพชนจนมาถึงในปัจจุบันก็เป็นระยะเวลากว่า 4,000 ปีมาแล้ว ซึ่งวิชาฮวงกับจุ้ยนั้นก็คือลมและน้ำโดยฮวงคือลมและจุ้ยคือน้ำ แต่ในระบบเตาเหมาซานวิชาฮวงจุ้ยจะว่าด้วยเรื่องของพลังงานธรรมชาติและวิญญาณที่มีอยู่จริงสามารถทดลองได้จริงและเห็นผลจริง             ซึ่งหากมีผู้ตั้งคำถามว่าปัจจุบันชาวฮวงจุ้ยระบบเต๋าเหมาซานนี้ มีความสัมพันธ์อย่างไรกับชีวิต ก็ต้องขอบอกเลยว่าฮวงจุ้ยในระบบเต๋าเหมาซาน เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเลยทีเดียว ซึ่งหากเกิดความเข้าใจก็จะสามารถนำสิ่งเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตได้ เปรียบเสมือนกับตัวช่วยที่มีอยู่จริงในธรรมชาติที่ใช้ได้จริงและเป็นสิ่งที่คนอื่นไม่มี อีกทั้งยังเป็นระบบวิชาที่มีการตกทอดมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน             แล้วทำไมหลาย ๆ คนที่ไปค้นหาวิชานี้ตามตำราทั้งหมดที่อยู่บนโลกแต่ก็ไม่เจอ นั่นก็เป็นเพราะว่าระบบต่อมอาคารเป็นวิชาที่มีไว้สำหรับเจ้าสำนักหรือผู้ที่จะเป็นผู้คุมวิทยาการจีนทั้ง 5 ในสมัยอดีตเท่านั้นนั่นเอง จึงถือว่าระบบวิชาเต๋าเหมาซานนี้ เป็นวิชาที่มีความล้ำลึกและสื่อถึงสิ่งที่สามารถใช้ได้จริง รวมไปถึงความเชื่อเหล่านี้ก็ยังมีส่วนในการไปส่งเสริมชะตาชีวิตของคุณให้ได้เปรียบมากกว่าทุกคนได้อีกด้วย             นอกจากนี้ในส่วนของเครื่องรางของขลังต่างๆของวิชาเต๋าเหมาซานจะมีความรุนแรงและได้ผลในเชิงบวกมากกว่าฮวงจุ้ยแบบปกติตามที่พวกท่านได้เรียนรู้มา อีกทั้งยังมีวิชาคุณต่าง ๆ ที่ช่วยเสริมสร้างพลังชีวิตในด้านดีและขับไล่พลังงานที่ไม่ดีออกไป ทั้งเกี่ยวกับบ้านข้าวของภายในบ้าน รวมไปถึงผู้คนได้อีกด้วย ดังนั้นหากใครที่กำลังสนใจในการเรียนวิชาฮวงจุ้ยระบบเหมาซานนี้จำเป็นที่จะต้องศึกษาให้ถ่องแท้เพื่อทำให้ชีวิตของคุณนั้นได้พบกับความสุขและความเป็นมงคลที่คุณจะได้รับ https://www.youtube.com/watch?v=PrvXHS48J6U

Read story

พลังงานยุค9 เจ้าเตาสำคัญเพราะอะไร

ตามหลักของฮวงจุ้ยยุค 9 ก็คือธาตุไฟซึ่งธาตุไฟนี้จะมีความโดดเด่นในเรื่องของความสว่างไสว ความร้อนแสงสว่างความฉลาดความรู้ใหม่รวมไปถึงความกระจ่าง และนอกจากนี้ยังหมายถึงสิ่งที่มองเห็นแต่สัมผัสไม่ได้ และเปรียบเสมือนกับสังคม และวิถีชีวิตของคนที่อยู่ในโลกออนไลน์ที่เหมือนเห็นกันแต่ไม่ได้อยู่ตรงหน้ากันจริง หรือไม่รู้จักกันด้วยซ้ำจึงถือว่าในยุค 9 นี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเลยทีเดียว ทำให้เจ้าเตามีความสำคัญในยุคนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งทำไมเจ้าเตาจึงสำคัญในยุคนี้เรามาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน             ตลอดเวลาที่ผ่านมาจนล่วงเลยมาถึงในยุคปัจจุบันหรือยุค 9 นี้พิธีกรรมที่มีความสำคัญของทุก ๆ บ้านนั้นก็คือพิธีการจุดตะเกียงเจ้าที่เพื่อเสริมให้บ้านมีพลังงานที่ดี และทำให้พลังงานในตัวเรานี้มีความเป็นสิริมงคลมากยิ่งขึ้นซึ่งตะเกียงเจ้าที่มีความสำคัญมาก ๆ เพราะลักษณะของเจ้าที่ตามแบบฉบับของหลักฮวงจุ้ยนั้นจะเป็นบ้านเล็ก ๆ ที่มีเจ้าที่มีรูปปั้นของคนอยู่ภายในจึงนี้แหละที่เราเรียกว่าเจ้าที่ และยังเป็นตำแหน่งของการสะสมพลังงาน หรือเป็นตำแหน่งที่พลังงานตกกระทบภายในตัวบ้านอีกด้วย             โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลไหว้ตรุษจีนอากงมักจะสอนให้ไหว้เทพเจ้าเตาอยู่เสมอ จนเราเองก็ต้องตั้งคำถามว่าเจ้าเตาคือใคร ทำไมถึงสำคัญมากขนาดนี้ เพราะเทศกาลตรุษจีนเป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ของคนจีนมาก ๆ ซึ่งการไหว้เจ้าเตาก็คือ เตาไฟที่หุงข้าวนั่นเองซึ่งการไหว้เจ้าเตาว่ากันว่าเป็นความเชื่อของชาวจีนฮกเกี้ยนที่เชื่อว่าเทพเจ้าเตาไฟเป็นเทพที่คุ้มครองผู้คนในบ้าน และยังจดประพฤติความดีของคนในบ้านเพื่อไปรายงานให้กับเทพเจ้าสูงสุดอีกด้วย ซึ่งการไหว้เจ้าเตามักจะมาพร้อมกับคำสอนให้ทำตัวดี ๆ มีเช่นนั้นอาจทำให้เจ้าเตารายงานเทพใหญ่ได้             นอกจากนี้ยังมีความเชื่อที่ว่าจะเอาเตามีหน้าที่คุ้มครองดูแลความเป็นอยู่ของคนในบ้าน และยังอำนวยพรให้โชคแก่คนในบ้าน อีกทั้งยิ่งไหว้ก็ยิ่งเฮงหากประสงค์สิ่งใดก็ให้ขอพรกับสิ่งนั้น ซึ่งสิ่งที่ใช้ไหว้เทพเจ้าเตาคือน้ำชากับขนมเข่ง และของหวานประเภทที่เหนียว เพราะเชื่อว่าหากใช้ของหวานที่เหนียวติดปากเทพเจ้าเตาจะได้รายงานเทพใหญ่ไม่สะดวก และจะทำให้รายงานแต่เรื่องดี ๆ เรื่องหวาน ๆ นั่นเอง             การไหว้เทพเจ้าเตาได้เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย และความเชื่อของคนที่เปลี่ยนไปแต่แน่นอนว่าคนจีน และคนที่มีความศรัทธาหลาย…

Read story