5 สิ่งของที่ไม่ควรมีอยู่ในรถ ตามความเชื่อสายมู             หากใครที่เป็นสายมูนอกจากคุณจะมีความเชื่อในด้านต่าง ๆ แล้วอีกหนึ่งสิ่งที่คุณจะละเลยไม่ได้ก็คงจะหนีไม่พ้นกับเรื่องรถหรือยานพาหนะนั่นเอง ซึ่งก็จะมีบางสิ่งที่ไม่ควรมีอยู่ในรถเพราะหากมีแล้วอาจจะทำให้พลังงานในแง่ลบสามารถเข้ามาอยู่ในรถของคุณได้เช่นเดียวกัน ซึ่งวันนี้แนะนำเอา 5 สิ่งของที่ไม่ควรมีอยู่ในรถตามความเชื่อของสายมูมาฝากกันจะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันได้เลย 5 สิ่งของที่ไม่ควรมีอยู่ในรถ             ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความเชื่อของแต่ละบุคคลนั้นแตกต่างกันออกไปแต่สำหรับสายมูแล้ว เรื่องความเชื่อเกี่ยวกับรถยนต์ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว โดยเฉพาะสิ่งของที่ไม่ควรมีอยู่ในรถทีหากมีแล้วจะถือว่าอัปมงคลในทันทีมีดังนี้ นาฬิกาตาย การนำเอานาฬิกาที่ตายแล้วมาไว้ในรถเชื่อว่าการเดินเข็มของนาฬิกานั้นจะเปรียบเสมือนกับการขับเคลื่อนชีวิตของคน ตามหลักฮวงจุ้ยแล้วนาฬิกาที่ตายหรือหยุดเดินถือเป็นการหมดอายุขัยอาจมีเรื่องราวความตายเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งหากพูดให้เข้าใจได้ง่ายมากกว่านี้ก็คือการมีนาฬิกาตายอยู่ในรถอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงถึงชีวิตได้ ดังนั้นหากอยากมีนาฬิกาติดรถก็ควรใส่ถ่านหรือนำไปซ่อมแซมให้เรียบร้อย เหรียญร่วงในรถ เหรียญที่ร่วงหล่นลงบนพื้นในรถ ตามหลักฮวงจุ้ยแล้วถือเป็นสิ่งที่ไม่ดีสักเท่าไหร่เพราะอาจเป็นเหตุที่ทำให้คุณต้องมีค่าใช้จ่ายในเรื่องรถเข้ามาได้เหมือนกัน  ซึ่งก็แน่นอนว่าในบางครั้งที่เราหยิบเงินออกจากกระเป๋าเพื่อทำการจ่ายค่าทางด่วนหรือซื้อของต่าง ๆ อาจจะไม่ทันสังเกตว่ามีเหรียญร่วงหล่นอยู่บนพื้นและเมื่อไหร่ที่ได้เก็บรถแล้วเจอก็แนะนำให้เก็บขึ้นมาอย่าทิ้งไว้นาน เพราะอาจทำให้เจ้าของรถคันนี้เก็บเงินเก็บทองไม่อยู่นั่นเอง พวงมาลัยแห้ง คนไทยมีความเชื่อเกี่ยวกับการไหว้แม่ย่านางมาอย่างช้านาน ซึ่งแม่ย่านางถือเป็นผู้ที่คุ้มครองทั้งรถและผู้ขับให้แคล้วคลาดปลอดภัยทำให้หลาย ๆ คนมักจะซื้อพวงมาลัยมาห้อยไว้ในรถ เพื่อเป็นการเคารพแม่ย่านางนั่นเองแต่หากปล่อยให้พวงมาลัยแห้งเฉาหมดกลิ่นก็อาจกลายเป็นสิ่งที่อัปมงคลได้เช่นเดียวกัน เพราะสื่อถึงว่าการเดินทางของคุณกำลังพบเจอกับอุปสรรคและไม่ราบรื่น ดังนั้นหากพวงมาลัยเริ่มเห*่ยวเฉาควรเปลี่ยนพวงมาลัยค่อยลดใหม่ใครมีความสดชื่นและดูดีเพื่อเป็นการเสริมสิริมงคลต่อการเดินทางของคุณนั่นเอง สิ่งของของคนตาย สิ่งของของคนตายหากอยู่ในรถยนต์มีความเชื่อว่าคนที่เสียไปแล้วจะอยู่ไม่เป็นสุข เพราะในรถมีพื้นที่แคบอีกทั้งอากาศยังไม่ถ่ายเทเท่าไหร่นัก ดังนั้นจึงควรนำเอาสิ่งของของผู้เสียชีวิตออกจากรถแล้วย้ายไปยังที่ที่โปร่งโล่งหรือบนหัวนอนของเราจะดีกว่านั่นเอง กระจกที่ร้าว กระจกที่มีรอยร้าวหรือกระจกแตกนั้นตามหลักฮวงจุ้ยและความเชื่อของคนไทยเชื่อว่าเป็นสัญญาณเกี่ยวกับความสัมพันธ์อันร้าวฉานและควรที่จะซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุจากกระจกตามมานั่นเอง เพราะฉะนั้นลองสังเกตดูว่ารถของคุณมีสิ่งของเรานี้อยู่ภายในรถหรือไม่เพราะบางทีการที่คุณเจออุบัติเหตุในขณะขับขี่หรือมีปัญหาในการขับขี่อยู่บ่อยครั้ง ปัญหาส่วนใหญ่ก็อาจจะมาจากการที่คุณมีสิ่งของอัปมงคลเหล่านี้ไว้ในรถก็เป็นได้ ดังนั้นแนะนำให้ลองปรับไปดูที่ภายในรถว่ามีสิ่งของเหล่านี้อยู่หรือเปล่าหากมีเมื่อไหร่ให้นำออกจากรถทันทีแล้วมาสังเกตดูกันอีกครั้งว่าในด้านการขับขี่รถยนต์นั้นจะดีขึ้นหรือไม่  

พระตรีมูรติ เทพเจ้าสูงสุด             สิ่งที่หลาย ๆ คนสามารถสังเกตเห็นได้คือในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ซึ่งเป็นเดือนแห่งความรักเรามักจะเห็นคนไทยจำนวนมากไปกราบไหว้พระตรีมูรติในฐานะของเทพเจ้าแห่งความรักกันเพื่อให้สมหวังตามปรารถนาของตัวเอง แต่แน่นอนว่ายังมีอีกหลายคนที่ตั้งข้อสงสัยว่าพระตรีมูรติคือใครทำไมจึงเป็นเทพเจ้าสูงสุดและมีอิทธิฤทธิ์ในการประทานความสมหวังในด้านความรักให้แก่ผู้ที่เข้ามากราบไหว้ วันนี้เรามีสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝากให้คุณได้ดูกัน พระตรีมูรติเทพเจ้าสูงสุดในศาสนาฮินดู             พระตรีมูรติ ถือเป็นเทพเจ้าในศาสนาฮินดู โดยเป็นการอวตารรวมของพระเจ้าสูงสุดทั้ง 3 พระองค์ได้แก่พระพรหม พระวิษณุ และพระศิวะ โดยคำว่าตรีมูรติมาจากคำว่าตรีที่หมายถึง 3 และคำว่า มูรติ ที่หมายถึงรูปแบบ ดังนั้นเมื่อแปลความหมายของคำว่า ตรีมูรติ อย่างตรงตัวแล้วก็จะหมายความว่า รูปแบบของพระเจ้านั่นเอง และอย่างที่เราได้เห็นกันบริเวณหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ที่มีหลาย ๆ คนพูดว่าสิ่งนั้นคือพระตรีมูรติแต่หลายฝ่ายก็ยังบอกว่านั่นไม่ใช่พระตรีมูรติแต่เป็นพระศิวะต่างหากและแท้ที่จริงคืออะไรกันแน่             ตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็มีหลายคนที่ศึกษาในเรื่องนี้อีกเช่นเดียวกันทำให้รู้ว่ารูปปั้นที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ก็คือพระศิวะปัญจมุขขีหรือพระศิวะปาง 5 เศียรนั่นเอง โดยจะมีลักษณะ 3 เศียรเป็นพระปัญจมุขีย์หรือพระศิวะ 5 เศียร แต่ก็มีผู้ที่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของพระตรีมูรติเอาไว้ว่าพระตรีมูรตินั้นจะมี 3 เศียร 6 กร โดยสิ่งนี้แทนองค์พระพรหม พระศิวะ และพระนารายณ์ ซึ่งเป็น 3 มหาเทพของฮินดูนั่นเอง และสำหรับใครที่อยากมีโอกาสไปไหว้พระตรีมูรติกันบ้างนั้น ก็สามารถไปไหว้ได้ที่ สี่แยกห้วยขวาง ถนนรัชดาภิเษก หรือใครที่อยู่ต่างจังหวัดก็มีอีกเช่นเดียวกัน…

ที่มาของหอยสังข์             ในการทำพิธีมงคลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงานหรือการประกาศศักดาความมีชัยในสมัยโบราณ จะนิยมเอาหอยสังข์มาใช้ในพิธี ซึ่งนั่นก็ทำให้คนยุคใหม่เกิดความสงสัยว่าหอยสังข์นี้ทำไมจึงมีความสำคัญกับงานพิธีการแล้วที่มาของการใช้หอยสังข์คืออะไรวันนี้เราจะพาทุกท่านไปหาคำตอบพร้อม ๆ กัน หอยสังข์วัตถุจำเป็นในพิธีมงคล             หอยสังข์คือ 1 ใน 14 ของศักดิ์สิทธิ์ที่ได้จากการกวนเกษียรสมุทร เพื่อทำน้ำอมฤตของเทวดาและอสูรอีกทั้งยังเป็น 1 ใน 4 ของเทพศาสตราวุธที่พระนารายณ์ทรงไว้ในหัตถ์อีกด้วย นั่นก็คือ จักร คฑา ดอกบัว และสังข์นั่นเองอีก ทั้งสังข์ยังเป็นสัญลักษณ์ของน้ำชีวิตและความอุดมสมบูรณ์ รวมถึงยังเป็นเครื่องมือที่ใช้ปัดเป่าเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายอีกด้วย หากเราเปรียบเทียบกับในนิทานพื้นบ้านเรื่องสังข์ทองเราก็จะเห็นได้ว่าเด็กชายผู้นั้นเป็นถึงลูกของกษัตริย์แล้วยังอยู่ในหอยสังข์ ซึ่งนั่นก็ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าหอยสังข์เป็นของมงคลที่มีความศักดิ์สิทธิ์ทำให้ตัวเอกของเรื่องถูกกรรมบังกายโดยหอยสังข์นั่นเอง             อีกทั้งหอยสังข์ยังมีความเกี่ยวพันกับธรรมเนียมโบราณหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการนำเปลือกหอยสังข์มาทำเป็นแผนผังสร้างเมืองหริภุญชัยหรือในตำนานสร้างกรุงศรีอยุธยาก็ได้บอกกล่าวเอาไว้ว่ามีการขุดพบสังข์ทักษิณาวัฏ ซึ่ง ถือเป็นนิมิตมงคลอีกด้วยเช่นเดียวกันกับพระสังข์ทักษิณาวัฏที่อยู่ในเมือง มีด้ามเหมือนทวย อยู่บุษบกของพระแก้วมรกต             การถือเอาสารเป็นสิ่งมงคลมาจากตำนานที่เล่าว่าครั้งหนึ่งพระอิศวรสร้างเขาพระสุเมรุทรงมีประกาศิตให้พระพรหมธาดา เป็นใหญ่กว่าพรหมทั้งหลายและนั่นจึงเป็นเหตุให้พระพรหมองค์หนึ่งเกิดจิตริษยาและจุติลงมาเป็นสังขอสูร อยู่บริเวณใต้พระมหาสมุทรเชิงเขาพระสุเมรุเบียดเบียนเขาพระสุเมรุไม่ให้อยู่เป็นปกติสุขและคอยจ้องจะทำร้ายพระพรหมธาดาอยู่ร่ำไป วันหนึ่งพระพรหมธาดาได้นำเอาคัมภีร์พระเวทมาถวายพระอิศวรไว้สำหรับโลกแต่เกิดร้อนพระวรกาย จึงเสด็จลงสรงน้ำที่ฝั่งพระมหาสมุทรโดยเอาคัมภีร์นั้นวางไว้เหนือฝั่งข้างพระองค์             เมื่อสังขอสูรเห็นก็คิดว่าหากไม่มีคัมภีร์นั้นไม่ใช้สำหรับการสั่งสอนโลกแล้วเทพยดาและมนุษย์ก็จะไม่นับถือพระพรหมธาดาอีกต่อไป จึงใช้ให้ผีเสื้อไปขโมยคัมภีร์พระเวทมาแล้วจากนั้นสังฆสูรก็กลืนคัมภีร์ลงท้องเมื่อพระพรหมธาดาไม่เห็นคัมภีร์ก็ได้เสด็จไปเฝ้าพระอิศวรและกราบทูลเรื่องราวเหล่านี้พระอิศวร จึงให้พระนารายณ์อวตารลงไปสัประยุทธ์กับสังขอสูรและพระนารายณ์ก็เป็นฝ่ายชนะ จึงใช้พระหัตถ์ขวาล้วงเข้าไปตามช่องปากของสังขอสูรเพื่อเอาคัมภีร์พระเวทออกมา แล้วสังหารสังขอสูร ปากสังข์จึงกลายเป็นรอยนิ้วพระนารายณ์มาจนถึงทุกวันนี้  

ยุค 9ปุ๊บธุรกิจสะดุดปั๊บเกิดมาจากอะไร             เคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมเมื่อเข้าสู่ยุค 9 ปุ๊บธุรกิจของคุณที่ดำเนินมาเป็นอย่างดีมาโดยตลอดแต่สุดท้ายนั่นเกิดการสะดุดหรือเกิดข้อผิดพลาดอย่างเห็นได้ชัดขึ้นมา จนคุณเองก็รู้สึกจนปัญญาที่จะแก้ไขให้มันดีขึ้นทำให้เกิดความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับในยุค 9 ที่ทำให้ธุรกิจของคุณเกิดความสั่นคลอนได้เช่นนี้ แล้ววันนี้เราจะพาทุกท่านไปดูกันว่าสภาวะของยุค 9 ที่ทำให้ธุรกิจของคุณเกิดการสะดุดนั้นควรจะทำอย่างไรให้เกิดเรื่องราวดี  ๆ  ขึ้นได้บ้าง สภาวะยุค 9 เรื่องน่าห่วงของเศรษฐกิจ             เมื่อเข้าสู่สภาวะยุค 9 แน่นอนว่าหลาย  ๆ  คนมักจะประสบกับปัญหาหลาย  ๆ  อย่างไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเงินการงานธุรกิจที่ทำอยู่ รวมไปถึงความรักก็ตามทีบางคนประกอบธุรกิจแบบเดิมมาอย่างยาวนานเป็น 10 ปีแต่แทบจะไม่เจอกับปัญหาใด  ๆ  เลยแม้แต่น้อยแต่เมื่อเข้าสู่ยุค 9 ปุ๊บก็เกิดเรื่องน่าเป็นห่วงปั๊บเพราะธุรกิจนั้นเกิดการสะดุดและเกิดปัญหาที่ยากกว่าการแก้ไขทำให้หลาย  ๆ  ธุรกิจในยุคนี้ต้องปิดตัวลงอย่างเห็นได้ชัด             แต่ถึงแม้ว่าในยุค 9 จะมีสิ่งที่ทำให้ธุรกิจสะดุดก็ตามที แต่ยังมีวิธีที่จะทำให้ชีวิตของคุณฟื้นกลับมาได้อีกครั้งเช่นเดียวกับการเปลี่ยนหลอดไฟบ้านของคุณทั้งหลัง หากตรวจสอบไฟฟ้าในบ้านทั้งหมดรวมไปถึงจานดาวเทียมเสาโทรทัศน์และเสาวิทยุที่อยู่บนหลังคาบ้านแล้ว ดวงไหนหรือเสาไหนที่คุณไม่ใช้ใครเอาออกให้หมดจากนั้นมาทำความสะอาดบ้านให้เกิดความเรียบร้อยดูน่าอยู่มากยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่การจัดเรียงทุกอย่างในบ้านให้เข้าที่และเป็นระเบียบจะยิ่งเพิ่มพลังให้กับการงานในยุค 9 สามารถนำมาใช้ได้อย่างเต็มที่             จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมในยุค 9 เศรษฐกิจและธุรกิจของคุณจึงได้สะดุดเช่นนี้ นั่นก็เป็นเพราะบ้านของคุณยังมีสิ่งของที่ไม่ได้ใช้หรือไม่จำเป็นอยู่ภายในบ้าน โดยเฉพาะเสาโทรทัศน์ เสาวิทยุ และจานดาวเทียม รวมไปถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เก่าแล้วแต่ยังสะสมเอาไว้ในบ้าน ทั้งหมดนี้นี่แหละที่เป็นตัวเจ้าปัญหาในการทำให้ธุรกิจของคุณเกิดความสะดุดในยุค 9…

อยากให้แฟนคลั่งรักเราทําสิ่งนี้             เชื่อหรือไม่ว่ามนุษย์ให้ความสำคัญกับความรักมากกว่าทุกสิ่ง อย่างที่เราได้ยินกันว่าความรักมักทำให้คนตาบอดนี่แหละคือสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่ามนุษย์ไม่สามารถทอดทิ้งความรักไปได้แม้แต่น้อ ถึงแม้จะมีเรื่องราวที่ไม่ดีเกี่ยวกับด้านความรักมาบ้างแต่สุดท้ายก็ยังขวนขวายและไขว่คว้าที่จะได้ความรักดี ๆ มาครอบครองและหากใครที่มีคนรักคือคู่ครองอยู่แล้วหากคุณอยากทำให้แฟนคลั่งรักมากยิ่งขึ้น วันนี้เรามีสิ่งดี ๆ มานำเสนอที่เชื่อว่าคุณเองก็สามารถที่จะทำตามได้ง่าย ๆ เช่นเดียวกันใครอยากให้แฟนคลั่งรักมาดูกันได้เลย วิธีง่าย ๆ ทำให้แฟนคลั่งรักคุณได้แบบ 100%             พื้นฐานของมนุษย์ทุกคนเกิดมาจากมนุษย์อีกทีหนึ่ง แน่นอนว่ามือถึงช่วงหนึ่งคุณก็ต้องการมนุษย์อีก 1 คนมาใช้ชีวิตร่วมกันกับคุณเพื่อพัฒนาวัฏจักรนี้ต่อไปเรื่อย ๆ และสิ่งหนึ่งที่ทุกคนมีความต้องการเลยก็คือความรักที่บริสุทธิ์และความรักที่มีความสดใสทั้งต่อตนเองและต่อคนรัก จึงมีคำถามเกี่ยวกับเรื่องของฮวงจุ้ยในด้านนี้ที่มากถึง 99.99% มาอย่างต่อเนื่องเพราะคนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับความรักมากกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้นเราจึงมีทริคดี ๆ ที่จะทำให้แฟนของคุณครั้งรักแบบหัวปักหัวปำมาฝากกัน โดยสามารถทำตามได้ดังนี้ วางรูปคู่เรากับแฟนใส่กรอบรูปวางไว้กลางบ้าน เอารูปคู่เรากับแฟนไว้ในกระเป๋าตังค์ นำรูปของเรากับแฟนใส่กรอบรูปที่อยู่บนหัวนอน หากคุณสามารถทำทั้ง 3 สิ่งนี้ได้แล้วบอกเลยว่าแฟนคุณจะคลั่งรักคุณอย่างมากมาย แต่มีข้อแม้หนึ่งว่าการนำรูปใส่กรอบรูปทั้งวางไว้กลางบ้านแล้ววางไว้บนหัวนอนนั้น ต้องเป็นกรอบรูปสีขาวเท่านั้น โดยเมื่อทำทั้ง 3 สิ่งนี้พลังงาน 3 วิญญาณจิตกับเรื่องของความรักจะเกิดขึ้น โดยอัตโนมัติและส่งพลังออกมาอย่างแรงกล้าทำให้แฟนหรือคนรักของคุณเกิดความรักคุณอย่างบ้าคลั่ง โดยตามระบบวิชาเต๋าเหมาซานการกระทำทั้ง 3 สิ่งนี้นอกจากจะทำให้คนรักมองคุณเพียงคนเดียวแล้ว ก็ยังทำให้ชีวิตคู่ของคุณและเขาดีขึ้นได้อย่างแน่นอน             แต่เหนือสิ่งอื่นใดการมีความรักที่บริสุทธิ์ โดยที่คำนึงถึงฝั่งตรงข้ามพร้อมกับรักตัวเองไปพร้อม ๆ กันจะทำให้ความสัมพันธ์มีความกระชับมากยิ่งขึ้น สร้างความอบอุ่น รวมไปถึงความสุขและความเจริญให้กับทั้งคู่ได้ในอนาคตและในปัจจุบันยิ่งใครที่วางแผนการสร้างอนาคตครอบครัวเอาไว้ยิ่งต้องพยุงความสัมพันธ์กันไปให้ตลอดรอดฝั่งหากได้ทำทั้ง…

พระแม่ตรีศักติ คือใคร             เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยินชื่อของพระแม่ตรีศักติ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อของพระแม่อุมาตากีนั่นเอง โดยเป็นการรวมพลังของพระแม่สูงสุดทั้ง 3 พระองค์ของศาสนาพราหมณ์ฮินดู ซึ่งชาวไทยนิยมนำเอาเครื่องรางเกี่ยวกับพระแม่ตรีศักติมาทำการบูชาและได้รับสิ่งที่ดีกลับไปอย่างมากมาย ทางด้านความรัก เงินทอง อำนาจ และสติปัญญา ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับพระแม่ตรีศักติ ว่าท่านคือใคร             พระแม่ตรีศักติ เป็นการรวมพลังของสามพระแม่ผู้ยิ่งใหญ่ ได้แก่ พระแม่อุมาเทวี พระแม่ลักษมี และพระแม่สุรัสวดี โดยทั้ง 3 พระองค์นี้ คือชายามหาเทพที่ช่วยประทานพรในด้านความสำเร็จให้เพียบพร้อมสมปรารถนา เป็นที่ทราบกันดีว่าพลังอำนาจของมหาเทพในศาสนาพราหมณ์ฮินดูนั้น มีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิดได้แก่พระตรีมูรติ คือ พลังอำนาจของบุรุษเพศ และพระแม่ตรีศักติ คือ พลังอำนาจของสตรีเพศนั่นเอง 3 พระแม่ตรีศักติ พระแม่อุมาเทวี คือ ฉายาของพระศิวะผู้มีความเกรงขามและมีความงามเปลี่ยนไปด้วยอำนาจวาสนาบารมี โดยท่านผู้นี้จะประทานพรในเรื่องของอำนาจหน้าที่การงาน การเลื่อนขั้นเ สริมเมตตาบารมีให้สุขภาพแข็งแรง ประทานพรและสร้างความสุขให้แก่ครอบครัว ประทานชัยชนะเหนือศัตรูทั้งปวง ปราศจากอุปสรรคต่าง ๆ และอันตรายในชีวิต พระแม่ลักษมี คือ พระชายาของพระวิษณุหรือพระนารายณ์ท่านผู้นี้เป็นคู่ที่มีความอ่อนช้อยนุ่มนวลเปลี่ยนไป ด้วยความอบอุ่น โดยท่านจะประทานพรในเรื่องของความรักให้สุขสมหวังดังใจ…

พลิกดวงยุค 9 “ค่ายคาถาเจ้าเตา”             ยุค 9 ถือเป็นยุคที่แรงที่สุดตามที่และที่เต๋าเหมาซานได้เคยกล่าวไว้ว่าคนรวยอาจจะกลายเป็นคนจนได้อย่างง่ายดาย และคนจนก็อาจจะกลายมาเป็นคนรวยได้อย่างง่ายดายอีกเช่นเดียวกัน ซึ่งนั่นก็ล้วนแล้วแต่เป็นพลังแห่งดวงในยุค 9 ทั้งสิ้นและสิ่งที่จะช่วยเสริมดวงของคุณในยุค 9d ให้ดีมากยิ่งขึ้นก็คือการทำพิธีค่ายคาถาเจ้าเตานั่นเองแล้ววันนี้มันกะสยามก็มีเรื่องราวดี ๆ ที่น่าสนใจในศาสตร์ความเชื่อวิชาฮวงจุ้ยระบบเต๋าเหมาซานเกี่ยวกับเรื่องของค่ายคาถาเจ้าเตามาบอกเล่าให้คุณได้รู้จักกัน ค่ายคาถาเจ้าเตาคืออะไร             ตามที่อาจารย์แขกได้บอกไว้ว่าหากใครที่ไม่เคยผ่านวิธีการจุดตะเกียงค่ายคาถาเจ้าเตานั้นเขาคนนั้นจะหาความเจริญในยุค 9 ไม่ได้ อีกครั้งยังพบเจอกับปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามารุมเร้าในชีวิตทั้งเรื่องของการงาน การเงิน รวมไปถึงการใช้ชีวิตในแต่ละวันเช่นหากขับรถไปก็อาจจะเจออุบัติเหตุได้ หรือหากลงทุนอะไรไปแล้วก็อาจจะทำให้ทุนหายกำไรหด ยิ่งเป็นเรื่องของความรักแล้วก็อาจจะเกิดการสูญเสียหรือไม่สมดั่งใจปรารถนาได้นั่นเอง ดังนั้นการทำพิธีจุดตะเกียงค่ายคาถาเจ้าเตาจึงถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมากในลัทธิของเต๋าเหมาซาน             โดยตัวชี้วัดที่บอกว่าคุณโดนพลังงานยุค 9 คุกคามหรือไม่นั้น ก็คือบริเวณหน้าบ้านหากหน้าบ้านใครที่มีกันสาดแตกหัก นกมาทำรังแล้วขึ้นสนิมอย่างรุนแรง มีอุบัติเหตุทางรถยนต์มาชนในบริเวณหน้าบ้าน ฟ้าผ่าและการตีลันฟันแทงในช่วงบริเวณหน้าบ้าน จนเกิดเลือดตกยางออกนั้น แสดงว่าชัยภูมิบ้านคุณได้ถูกครอบงำโดยพลังงานยุค 9 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เปรียบเสมือนอาหารเรียกน้ำย่อยที่จะมาปรากฏให้เราได้เห็นในรูปแบบต่าง ๆ เท่านั้นเอง หากยังไม่ทำพิธีจุดตะเกียงค่ายคาถาเจ้าเตาก็จะยิ่งทำให้ปัญหาต่าง ๆ ลุกลามมากยิ่งขึ้นกว่านี้ก็เป็นได้             ในอภิมหาปรัชญาจีนตามความเชื่อในวิชาฮวงจุ้ยระบบเตาเหมาซานได้บอกไว้ว่า บ้านมีพลังงานเป็นของบ้านแต่รับพลังงานจากดวงดาวบนท้องฟ้า ซึ่งหากคุณเข้าใจในระบบเตาเหมาซานคุณก็จะรู้ว่าทุกสรรพสิ่งในโลกนี้กำเนิดจากพลังงานดวงดาวทั้งหมดทั้งสิ้น ดังนั้นหากสนใจพิธีกรรมการจุดตะเกียงเจ้าเตายุค 9 เพื่อให้พลังงานบ้านของคุณมีพลังงานเป็นพลังงานของยุค 9 โดยอัตโนมัติ…

โต๊ะกินข้าว เปรียบเสมือนกระเพาะอาหารของบ้านหาถูกวางไว้ในตำแหน่งที่ดี ก็จะทำให้กระเพาะอาหารนั้นมีความอิ่ม แต่ในทางกลับกันเมื่อมันถูกวางไว้ในตำแหน่งที่ไม่ดีก็จะทำให้เกิดความหิวอยู่ตลอดเวลา  ซึ่งแน่นอนว่าตามหลักของฮวงจุ้ยก็มีเกี่ยวกับเรื่องของการวางโต๊ะกินข้าวอีกเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในวิชาเต๋าเหมาซานที่เรียกได้ว่าเป็นเคล็ดลับที่อาจไม่มีใครเคยบอกคุณมาก่อน และหากจัดวางโต๊ะกินข้าวให้เข้าที่เข้าทางและอยู่ในตำแหน่งที่ดีก็จะมีโชคเกี่ยวกับเรื่องของการเงินและโชคลาภต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งความอิ่มตามหลักฮวงจุ้ยนั้นหมายถึง โชคลาภเงินทองรวมไปถึงสิ่งของต่าง ๆ ที่เข้าหาเราแบบไม่มีหยุดตลอดเวลาจึงทำให้ความหิวนั้นไม่บังเกิดขึ้น หรืออาจหมายถึงการอยู่ในสภาวะที่เราทำงานหาเงินเท่าไหร่แล้วมีเก็บไม่ใช่หาเท่าไหร่ก็ไม่พอใช้ นั่นคือการอยู่ในรูปแบบของกระดานอิ่มนั่นเอง ซึ่งก็มีวิชาคุณช่วยระบบเต๋าเหมาซานที่ว่าด้วยเรื่องของโต๊ะกินข้าวเอาไว้ โดยในวิชาเต๋าเหมาซานว่าด้วยเรื่องหยินและหยางซึ่งโต๊ะกินข้าวที่ตั้งอยู่ในพลังงานหิน จะต้องมีความสงบนิ่งหรือหมายถึงในบริเวณนั้นจะต้องไร้ซึ่งสิ่งเคลื่อนไหวใด ๆ เช่นต้องเป็นห้องโถงโล่ง ถือเป็นฮวงจุ้ยในการวางโต๊ะกินข้าวที่ดีมาก ๆ นอกจากนี้โต๊ะกินข้าวควรอยู่ในตำแหน่งที่หันหน้าออกทางซ้ายมือของบ้านจึงหากเราแบ่งบ้านเป็นซ้ายขวาก็จะสามารถจัดสรรการวางโต๊ะกินข้าวได้ดี นอกจากนี้ในเรื่องของปัญหาสุขภาพนั้นโต๊ะกินข้าวยังสามารถบ่งบอกได้อีกด้วย เช่นการสังเกตจากถาดหมุนรอบโต๊ะหากขาดหมุนมีเสียงก็จะนำมา ซึ่งโรคภัยไข้เจ็บแต่หากขาดหมุนนั้นไม่มีเสียงก็สื่อให้รู้ว่าผู้คนในบ้านมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงดี ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าในเรื่องนี้ไม่มีที่ไหนที่เคยบอกเคล็ดลับการวางโต๊ะกินข้าวให้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยในระบบเตาเหมาซานแบบนี้มาก่อน และที่นี่น่าจะเป็นที่แรกที่ทำให้คุณสามารถจัดสรรในการวางตำแหน่งโต๊ะกินข้าวให้อยู่ในรูปแบบที่ถูกต้องเพื่อทำให้พลังงานดี ๆ หลั่งไหลเข้ามาสู่ตัวบ้านและผู้ที่อยู่อาศัยภายในบ้านนั่นเอง รวมไปถึงยังทำให้คุณสามารถที่จะจัดการกับปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ได้ดี เพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคุณได้มากยิ่งขึ้นไม่ทำให้ขัดสนในปัญหาเงินทอง หน้าที่การงานประสบคามสำเร็จ สร้างความสุขให้คนในบ้านได้เป็นอย่างมาก https://www.youtube.com/watch?v=6ioF1nxEZQQ

เคยสงสัยไหมว่าทำไมบ้านที่เราอยู่นั้นถึงเจอแต่ปัญหา นั่นอาจเป็นเพราะเรื่องของฮวงจุ้ยที่เป็นวิบากร้ายสามารถพิฆาตบ้านของเราได้ ซึ่งก็มีคำกล่าวที่ว่าบางทีบ้านของคุณโดนพิฆาตด้วยชัยภูมิหรือชัยภูมิที่ตั้งของบ้านนั้นโดนวิบากทางทิศทางทำให้มีสิ่งไม่ดีเข้าสู่ตัวบ้านได้อย่างง่ายดาย ซึ่งนั่นก็เป็นหนึ่งปัญหาที่ทำให้หลายๆบ้านมักเจอกับเรื่องคาราคาซัง และปัญหาจุกจิกอย่างมากมาย ไม่เว้นแม้แต่เรื่องของปัญหาสุขภาพของผู้คนในบ้านอีกด้วย             ซึ่งฮวงจุ้ยวิบากร้ายที่สามารถพิฆาตบ้านได้นั้น ก็มาจากหลากหลายสาเหตุ เช่นบ้านอยู่ในทางสามแพร่ง บ้านต่ำกว่าถนน บ้านที่ตรงข้ามมีมุมจั่วหรือมุมตึกแหลม บ้านอยู่ตรงข้ามป่าช้า เมรุ หรือสุสาน รวมไปถึงบ้านที่มีลมพัดแรงตลอดเวลา ซึ่งลักษณะของบ้านเหล่านี้ ล้วนเป็นบ้านที่ผิดตามหลักตำราฮวงจุ้ยของเต๋าเหมาซานทั้งสิ้นอีกทั้งยังสามารถส่งผลเสียมากกว่าผลดีให้กับผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านได้เป็นอย่างมาก             โดยเฉพาะที่ตั้งของโค้งที่พุ่งเข้าหาตัวบ้าน ตามตำราของเต๋าเหมาซานแล้วจะเรียกว่าโค้งฟันแห่งดาบซึ่งเป็นสิ่งที่นำมาด้วยกับสิ่งเลวร้ายทั้งสิ้น เปรียบเสมือนกับลูกธนูหรือคมของดาบที่ไม่มีความละมุนละม่อมแต่อย่างใด เช่น ปัญหาด้านสุขภาพ ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านอาจจะได้รับอันตรายหรือการเจ็บป่วยในด้านปัญหาสุขภาพแบบไม่มีจบสิ้น อีกทั้งยังมีความเสี่ยงในเรื่องของสายตา น้ำในหูไม่เท่ากัน อวัยวะภายในทำงานผิดปกติโดยเฉพาะในส่วนของลำไส้ที่อาจทำให้คนในบ้านมีการเจ็บป่วยอยู่ตลอดเวลา ศัตรูและมิตร             ผู้ที่เคยเป็นมิตรจะกลายเป็นศัตรูและศัตรูตรงหน้าจะสร้างความเดือดร้อนและความทุกข์ใจ รวมไปถึงเรื่องต่าง ๆ ที่ไม่ดีมาให้คุณได้ทุกข์ใจมากกว่าเดิม หน้าที่การงาน หน้าที่การงานนั้นจะเจอกับอุปสรรคและทำให้ความก้าวหน้าในการทำงานลดน้อยถอยลง อาจมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานหรือสำหรับใครที่ทำธุรกิจส่วนตัวก็อาจเกิดการพลิกกระดานที่ทำให้ธุรกิจนั้น ๆ สามารถล้มละลายได้ การเงิน พลังงานของโค้งฟันแห่งดาบนี้ จะส่งผลให้เงินของคุณที่มีอยู่หมดไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งในสิ่งนี้อาจหมดไปกับสิ่งเร้าต่าง ๆ หรือเป็นในเรื่องของปัญหาสุขภาพที่ลุกลามจนทำให้ต้องสูญเสียเงินก้อนใหญ่ ไม่ว่าจะหาเงินได้มากเท่าไหร่ก็ไม่พอใช้สร้างความลำบากและความขัดสนให้กับคนในบ้านได้อยู่ไม่น้อย โชคลาภที่จะเข้าสู่ตัวบ้าน             เดิมทีหากบ้านที่ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยนั้นโชคลาภและเงินทองต่าง ๆ จะไหลเข้าสู่ตัวบ้านได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อใดก็ตามที่พลังงานของโค้งฟันแห่งดาบนี้ ส่งผลต่อตัวบ้าน โชคลาภต่าง ๆ…

ห้องครัวอีกหนึ่งจุดสำคัญในบ้านที่หลาย ๆ คนให้ความสนใจ เนื่องจากมุมนี้เป็นอีกหนึ่งโซนที่ผู้คนในบ้านมักใช้งานร่วมกันเป็นประจำ ทำให้ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าห้องครัวเป็นส่วนหนึ่งของบ้านที่มีทุกหลังไม่ว่าบ้านหลังนั้นจะมีขนาดเล็กหรือมีขนาดใหญ่หรือจะเป็นเพียงคอนโดและห้องเล็ก ๆ ก็ตามทีก็จะต้องมีห้องครัวนี้เป็นมุมประกอบอาหารเล็ก ๆ เอาไว้อยู่เสมอซึ่งตามหลักวิชาฮวงจุ้ยระบบเต๋าเหมาซานถือว่าห้องครัวเป็นอีกหนึ่งโซนของบ้านมีวิชาฮวงจุ้ยให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งก็มี 3 สิ่งที่ช่วยเสริมห้องครัวให้มีกินไม่มีอดจะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันได้เลย เกลือ ตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว เกลือ ถือเป็นธาตุน้ำ ซึ่งหลายคนอาจจะเข้าใจว่าธาตุน้ำของเกลือจะพิฆาตเรือทำลายธาตุไฟของห้องครัวแต่ในความเป็นจริงเกลือเป็นพลังงานธาตุน้ำที่ไม่ดับไฟและมีพลังงานเสริมเป็นธาตุไฟแบบลับ ๆ ทำให้เมื่อเกลืออยู่ในห้องครัวจะช่วยปรับพลังงานฮวงจุ้ยให้ดีขึ้นได้ และที่สำคัญควรอยู่ในโถทึบจะดีกว่าภาชนะที่เป็นแก้วใสช่วยทำให้การเงินในบ้านดีขึ้น อีกทั้งยังส่งเสริมการเงินให้มีเงินทองเข้ามาอยู่ตลอดเวลา หากทำการค้ายอดขายก็จะดีขึ้นและมีทรัพย์หมุนเวียนมีเงินเก็บอยู่เสมอ พริกแห้ง ตามหลักวิชาฮวงจุ้ยระบบเต๋าเหมาซานเชื่อว่า พริกแห้ง เปรียบเสมือนพลังงานธาตุไม้ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมพลังงานธาตุไฟได้โดยตรง และเชื่อว่าหากมีพริกแห้งอยู่ในห้องครัวบ้านหลังนั้นมักจะได้รับเงินอยู่ตลอดเวลา และจะได้จับเงินแบบไม่ขาดมือมีทรัพย์ไหลเวียนเข้าบ้านไม่ขาดสาย น้ำมัน ซึ่งสิ่งสุดท้ายนี้ก็คือน้ำมันโดยตามหลักวิชาฮวงจุ้ยแล้วเชื่อว่า น้ำมัน สร้างพลังงานความร้อนเป็นการสร้างพลังงานประทับไฟแบบลับ ๆ โดยจะช่วยส่งเสริมพลังงานโดยตรงอีกทั้งหากด้านไหนมีทั้งน้ำมันพืชและน้ำมันสัตว์อยู่คู่กันในห้องครัวก็จะยิ่งทำให้บ้านหลังนั้นมีโชคลาภอยู่ตลอดเวลา จะพบกับจังหวะและโอกาสที่ดีอยู่เสมอเมื่อเจอปัญหาหรืออุปสรรคก็จะมีคนช่วยค้ำจุนพยุงหนุนนำยื่นมือเข้ามาช่วย รวมไปถึงในด้านการเจรจากับผู้หลักผู้ใหญ่ในเรื่องของธุรกิจก็จะสำเร็จง่ายขึ้นเงินทองไหลไม่ติดขัด             สิ่งสิ่งเหล่านี้ก็เป็นเคล็ดลับที่อาจารย์แขกแนะนำว่าควรมีอยู่ในห้องครัวอย่าให้ขาด เพราะจะทำให้ชีวิตของคนในบ้านดีขึ้นอย่างแน่นอน แต่หากบ้านหลังไหนอยากให้ดีขึ้นแบบทวีคูณก็มีวิธีที่ง่ายกว่านั้นคือสามารถติดฮู้เจ้าเตาไว้บริเวณห้องครัวหรือส่วนประกอบอาหารภายในบ้าน เพื่อช่วยส่งเสริมชะตาที่ดินและให้พลังงานชัยภูมิส่งผลดีกับผู้อยู่อาศัยในบ้านได้นั่นเอง https://www.youtube.com/watch?v=xjqnvVvOzfw