หินนำโชค คือ อีกหนึ่งศาสตร์ที่มนุษย์หลาย ๆ คนกำลังให้ความสนใจในปัจจุบัน ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของโชคลาภและเงินทองทั้งสิ้น จึงไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่คนเราในสมัยนี้มักจะมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องของโชคลาภของขลัง เมื่อพกไปทุกที่ทุกหนแห่งแล้ว จะนำพาโชคลาภมาให้กับพวกเขานั่นเอง โดยความเชื่อเรื่องหินนำโชคนี้มีมาอย่างเนิ่นนานแล้ว ซึ่งก็มีจุดเริ่มต้นจากทางฝั่งยุโรปก่อนที่ถูกเผยแพร่และมีอิทธิพลไปทั่วโลกในขณะนี้
หินนำโชคมีอยู่มากมายหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดนั้นก็มักจะมีคุณสมบัติพิเศษและมีผลจากการบูชาและพกพาแตกต่างกันไปโดยหินนำโชคที่เราอยากชวนให้คุณได้มารู้จักกันก็มีดังนี้
- อเมทิสต์ (Amethys)
หินแห่งจิตวิญญาณที่สูงส่งโดยจะมีลักษณะเป็นหินสีม่วงอ่อนไปจนถึงสีม่วงเข้ม มีพลังในการถ่ายทอดสูงเพิ่มความไวของการรับรู้ทางประสาทสัมผัสได้เป็นอย่างดี และยังทำให้เกิดสมาธิจิตใจมีความสงบโดยชาวตะวันตกมีความเชื่อว่าสีม่วงเป็นสีที่ให้พลังงานทางจิตสูง พระที่มีตำแหน่งทางศาสนาสูงก็มักจะพบเห็นสีนี้ติดตัวเอาไว้อยู่เสมอ
- เทอร์ควอยซ์ (Turquoise)
หินแห่งพลังอำนาจและความศักดิ์สิทธิ์ โดยหินชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นหินสีเขียวไข่กาหรือเป็นสีออกน้ำทะเลและยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า “หินมูลนกการะเวก” ซึ่งชาวอินเดียแดงเผ่าต่าง ๆ ยกให้หินเทอร์ควอยซ์เป็นสัญลักษณ์แห่งท้องฟ้าและเป็นดั่งลมหายใจของชีวิตและวิญญาณ จึงได้ทำการสวมใส่หินนี้ไว้ เพื่อเป็นตัวแทนของพลังอำนาจและความศักดิ์สิทธิ์มีคุณสมบัติในการบำบัดรักษาโรค
- โกเมน (Garnet)
หินแห่งชัยชนะ โดยจะมีหลายสีแต่ส่วนใหญ่จะเป็นสีแดงมีความแตกต่างกันไปตามส่วนผสมของแร่ธาตุ ในบางครั้งอาจมีสีเขียวหรือสีเทาซึ่งในสมัยก่อนผู้คนมักจะใช้โกเมนเป็นเครื่องรางแห่งชัยชนะ และอำนาจและจะต้องเป็นหินสีแดงแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งในภาษาละติน Garnet จะแปลว่าเมล็ดพันธุ์และเชื่อกันว่าเห็นนี้จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกายและสร้างชื่อเสียงเกียรติยศให้กับผู้ที่สวมใส่หรือพกติดตัวเอาไว้ได้เป็นอย่างดี
- หยก (Jade)
หินแห่งความศักดิ์สิทธิ์โดยเป็นที่นิยมของชาวจีนอย่างแพร่หลาย มีลักษณะเป็นหินสีเขียวมีฤทธิ์ในการช่วยปกป้องคุ้มครองและนำพาความเจริญสงบสุข รวมไปถึงความก้าวหน้ามาสู่ผู้ที่พกพาหรือสวมเอาไว้ซึ่งชาวจีนเชื่อว่าหากเด็กนั้นมีการสวมหยกตั้งแต่เด็ก ก็จะทำให้เด็กคนที่มีจิตใจแข็งแรงและมีสมาธิอยู่กับตัวเสมออีกทั้งยังเป็นผู้ที่มีอายุยืนและสุขภาพแข็งแรงอีกด้วย
- พลอยตาเสือ (Tiger’s Eye)
ลักษณะของพลอยตาเสือจะเป็นสีเหลืองเคลือบน้ำตาลไหม้ ซึ่งในบางครั้งรายของมันก็จะมีความคล้ายคลึงกับลายไม้หรือมีลักษณะแววับราวกับลายของเสือมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับตาแมว สามารถมองเห็นได้ในที่มืดโดยมีความเชื่อว่าพลอยตาเสือจะช่วยในการอ่านและการคาดเดาสถานการณ์ล่วงหน้าได้เป็นอย่างดี ยิ่งใครที่ตัดสินใจอะไรยาก ๆ หากพบพลอยตราเสือติดตัวเอาไว้จะช่วยให้คุณมีความหนักแน่นในการตัดสินใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
- ควอตส์ (Quartz)
หินที่เป็นพลังแห่งชีวิตและความแข็งแกร่งโดยจะมีลักษณะเป็นหินใส ไม่มีสี จึงถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าหินคริสตัลหมายถึงน้ำแข็งที่ถูกประดิษฐ์โดยพระเจ้า และยังมีความเชื่อว่าคริสตัลเป็นฟอสซิลของน้ำบริสุทธิ์
- ลาพิซ ลาซูลี (Lapis Pazuli)
หินแห่งเทพเจ้าลาพิสโดยจะรู้จักกันในนามของ แซฟไฟร์ มีลักษณะเป็นสีน้ำเงินครามและสีน้ำเงินปนเขียวบริเวณเนื้อหินมักจะมีสีเหลืองป่นอยู่ คล้ายกับทองคำแทรกอยู่ในหินซึ่งความจริงหินชนิดนี้เป็นแร่ไพไรต์และชาวอียิปต์โบราณก็ยังมีความเชื่อว่าเป็นหินแห่งเทพเจ้าและเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังอำนาจเกียรติยศสามารถป้องกันภยันตรายได้อีกด้วย