เปิดตำนาน เจ้าแม่ทับทิม

ในเมื่อเรื่องของความเชื่อเป็นสิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติ และธรรมชาติก็ยังเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์มาตั้งแต่สมัยโบราณนั้นถือว่า ความเชื่อนี้ก็เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ เพื่อทำให้เกิดความมั่นคง และปลอดภัยอย่างการที่ได้รู้จักกับเจ้าแม่ทับทิมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกป้องคุ้มครองมาพร้อมกับการบูชากราบไหว้ตามความเชื่อ ก็จะทำให้ผู้บูชาหลุดพ้นจากความทุกข์ยากลำบากความเดือดร้อนไปได้

            เจ้าแม่ทับทิม คือ เทพแห่งสายน้ำ ที่คอยปกปักรักษาผู้ที่เดินทางสัญจรด้วยเรือ โดยมีความเชื่อว่าหากจะต้องออกเรือเมื่อใดก็จะต้องมีการบูชา และประกาศให้เจ้าแม่ทับทิมรับทราบถึงการเดินทางในทุก ๆ ครั้งเพื่อที่จะทำให้การเดินเรือนั้นสามารถถึงจุดมุ่งหมายได้อย่างปลอดภัย ตามตำราได้เล่าว่าเจ้าแม่ทับทิมเกิดอยู่ในครอบครัวของขุนนางที่เมืองจีนบนเกาะเหมยโจ้ว มณฑลฝูเจี้ยนประเทศจีนซึ่งมีบิดาเป็นผู้ตรวจราชการของแผ่นดิน และมารดาเป็นผู้ที่มีจิตใจโอบอ้อมอารีชอบช่วยเหลือผู้อื่นที่ได้รับความทุกข์ยาก และเดือดร้อนอยู่เสมอมีจิตใจที่เที่ยงตรงในพุทธศาสนา ดำเนินชีวิตด้วยหลักทำนองทองคำของศาสนา และยังนับถือพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมเป็นอย่างมาก

            วันหนึ่งทั้งสองได้สวดมนต์อ้อนวอนขอพรจากเจ้าแม่กวนอิมให้ประธานบุตรให้ และไม่ช้าก็เกิดเรื่องน่าประหลาดขึ้นเมื่อย่างเข้าสู่เดือนที่ 6 ผู้เป็นบิดาก็ได้ฝันว่า เจ้าแม่กวนอิมได้ลงมาประทานยาวิเศษให้กับภรรยากินหลังจากนั้นเวลาไม่นานนักภรรยาก็ได้ตั้งครรภ์เมื่ออายุครรภ์ครบ 9 เดือนถึงกำหนดคลอดก่อเกิดปฏิหาริย์มีแสงสว่างส่องเข้ามาในตัวบ้านมีกลิ่นหอมเย็นสดชื่นตลบ อบอวลไปทั่วทั้งบ้าน และในวันรุ่งขึ้นก่อเกิดเรื่องน่าประหลาดใจขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเทือกเขาที่อยู่ใกล้บ้านเปลี่ยนเป็นสีส้มไปหมด

            ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านเชื่อว่าจะมีผู้มีบุญลงมาเกิดในโลกมนุษย์ และในวันนั้นเองภรรยาของท่านก็ได้คลอดเจ้าแม่ทับทิมออกมา ซึ่งเป็นเด็กที่มีหน้าตาน่ารักผิวพรรณสวยงามต่างจากเด็กทั่ว ๆ ไปในหมู่บ้านอีกทั้งยังไม่ร้องไห้ และไม่คร่ำครวญเหมือนเด็กทั่ว ๆ ไปบิดาจึงได้ตั้งชื่อท่านว่า “ลิ้มมิก” ซึ่งหมายถึงความเงียบขรึมในภาษาจีนนั่นเอง เมื่อลิ้มมิก อายุได้ 8 ขวบก็ได้เข้าเรียนหนังสือ ซึ่งก็ทำให้อาจารย์ผู้สอนต้องปลัดใจเป็นอย่างมากเมื่อเธอสามารถอ่านหนังสือได้อย่างแตกฉาน และรวดเร็วกว่าเด็กคนอื่น ๆ สามารถจดจำทุกสิ่งที่อาจารย์สอนได้เป็นอย่างดี และยังว่ายน้ำเก่งแต่ไม่ค่อยออกไปเล่นกับเด็กในวัยเดียวกันสักเท่าไหร่เพราะเธอมักจะฝึกสมาธิและปฏิบัติธรรมเสียมากกว่า

            เมื่ออายุได้ 13 ปีได้มีเทวดาองค์หนึ่งลงมาถ่ายทอดวิชากระแสจิต และความรู้เรื่องสวรรค์ให้กับเจ้าแม่ทับทิมในทุกๆเรื่องทำให้มีตาวิเศษผู้หนึ่งไว้คุ้มครองตนเองจากภัยอันตรายและยังได้ส่งศิษย์วิเศษจากสวรรค์มาคอยรับใช้ 2 คนโดยคนหนึ่งมีตาทิพย์ที่สามารถมองเห็นได้ไกลถึง 1,000 ไมล์ และอีกคนหนึ่งมีหูทิพย์ที่ได้ยินไกลถึง 1,000 ไมล์ ให้มาติดตามและให้ความช่วยเหลือกับเจ้าแม่ทับทิมนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เจ้าแม่ทับทิมสามารถส่งกระแสจิตช่วยประคองเรือของบิดาไม่ให้ร่มได้ในขณะที่เกิดพายุฝนกระหน่ำจากการเดินเรือมุ่งหน้าสู่มหาสมุทรนั่นเอง

            จนเมื่ออายุได้ 29 ปีเจ้าแม่ทับทิมก็ได้บอกกับบิดา และมารดา ว่าแยกออกไปอยู่ในที่ที่สงบสักพักหนึ่งจึงได้ขึ้นไปบนยอดเขาเหมาเฟิงเพื่อค้นพบความสงบที่แท้จริง โดยในวันรุ่งขึ้นจะไม่ทับทิมก็ได้จัดเตรียมดอกไม้ธูปเทียนเพื่อสวดมนต์ก่อนออกเดินทางครั้งนี้แล้วจึงได้ออกเดินเรือไปสู่เขาเหมาเฟิงจากนั้นชาวบ้านก็เห็นแสงสีรุ้งสวยสด และเสียงดนตรีอันไพเราะจากสวรรค์ท้องฟ้าประกายแสงสีทองทอดยาวมาสู่มหาสมุทรที่เจ้าแม่ทับทิมได้เดินทางตามแสงสีทองไปสู่สวรรค์ และหายรับไปหลังกลีบเมฆพร้อมกับเสียงบรรเลงจากสวรรค์ที่จบลงแต่ถึงกระนั้นเจ้าแม่ทับทิมก็ยังคงให้ความช่วยเหลือคนเดินเรือชาวประมง หรือพ่อค้าชาวเรือมาโดยตลอดทำให้เป็นที่นับถือศรัทธาของผู้คนมาจนถึงปัจจุบัน

Share this story: