“เทศกาลสารทจีน” คืออะไร สำคัญอย่างไรกับลูกหลานชาวจีน

“เทศกาลสารทจีน” คืออะไร สำคัญอย่างไรกับลูกหลานชาวจีน

            แน่นอนว่าเทศกาลสารทจีนจะวนมาในทุก ๆ ปี ซึ่ง 1 ปีก็จะมีอยู่ 1 ครั้ง โดยไปเทศกาลที่ลูกหลานชาวจีนให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก แต่นั่นก็ทำให้ชาวไทยบางกลุ่มเกิดความสงสัยว่าวันสารทจีนคืออะไร ทำไมจึงมีความสำคัญกับลูกหลานชาวจีนในประเทศไทยได้มากขนาดนี้ วันนี้เราจะพาคุณไปขายคำตอบที่กำลังสงสัยเหล่านี้กัน

เทศกาลสารทจีนคืออะไรทำไมคนไทยเชื้อสายจีนจึงให้ความสำคัญ

            เทศกาลสารทจีน หรือ เทศกาลจงหยวน หมายถึงสารทกลางปี ซึ่งคนแต้จิ๋วก็จะเรียกว่าซิกง่วยปั่ว แปลว่า กลางเดือน 7 นั่นเอง และในปี 2567 นี้ เทศกาลวันสารทจีนจะตรงกับวัน ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ตามปฏิทินทางจันทรคติหรือตรงกับวันที่ 18 สิงหาคม 2567 นั่นเอง โดยวันสารทจีนถือเป็นเทศกาลที่มีความสำคัญเป็นอันดับ 2 รองจากเทศกาลตรุษจีนที่ลูกหลานชาวไทยเชื้อสายจีนนั้นจะต้องไปไหว้กันในวันนี้ อีกทั้งยังมีตำนานเล่าขานสืบต่อกันมาถึง 2 ตำนานเลยทีเดียว  ดังนี้

ตำนานที่ 1

 ได้เล่าว่าวันสารทจีนเป็นวันที่ยมบาลจะลงมาตรวจดูบัญชีวิญญาณคนตายและส่งวิญญาณดีขึ้นสวรรค์ส่งวิญญาณร้ายลงนรก ชาวจีนทั้งหลายรู้สึกสงสารวิญญาณร้าย จึงได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ดังนั้นเพื่อให้วิญญาณร้ายได้มีโอกาสออกมารับกุศลผลบุญ จึงต้องมีการเปิดประตูนรกนั่นเอง

ตำนานที่ 2

            ในตำนานนี้ได้เล่าว่าชายหนุ่มผู้หนึ่งมีชื่อว่ามู่เหลียนหรือพระมหาโมคคัลลานะ ซึ่งเป็นคนที่มีความเคร่งครัดในพุทธศาสนามาก ผิดแผนจากมารดาที่เป็นคนใจบาปหยาบช้าไม่เชื่อเรื่องของนรกสวรรค์และในปีหนึ่ง ช่วงเทศกาลกินเจ นางเกิดความหมั่นไส้กับผู้ที่ถือศีลมุ่งขาวห่มขาว จึงให้มู่เหลียนไปเชิญผู้ถือศีลกินเจมากินอาหารที่บ้านโดยนางจะทำเลี้ยง 1 มื้อ และเมื่อผู้ถือศีลกินเจได้ทราบข่าวก็เกิดศรัทธาในบุญกุศลครั้งนี้ จึงพากันมากินอาหารที่บ้านของมู่เหลียน โดยที่ไม่รู้ว่าในน้ำแกงเจนั้นมีน้ำมันหมูเจือปนอยู่ และการกระทำของมารดาถือเป็นกรรมหนัก เมื่อตายไปจึงตกนรกอเวจีมาหานรกขุมที่ 8 และยังเป็นนรกขุมที่ลึกที่สุด อีกทั้งยังได้รับความทรมานอย่างแสนสาหัส

            มู่เหลียนที่คิดถึงมารดามาก จึงได้ถอดกายทิพย์ลงไปในนรกภูมิและได้รู้ว่ามารดาของตัวเองอดอยากจึงป้อนอาหารแก่มารดา แต่ได้ถูกบรรดาภูตผีที่อดอยากรุมแย่งไปกินหมดเม็ดข้าวสุกที่ป้อนก็กลับเป็นไฟเผาไหม้ริมฝีปากของมารดาจนพองแต่ด้วยความกตัญญูและสงสาร จึงได้เข้าไปขอพระยายมบาลให้ตัวเองได้รับโทษแทนมารดาก่อนที่มู่เหลียนจะถูกลงโทษด้วยการนำร่างลงไปต้มในกระทะทองแดง พระพุทธเจ้าได้เสด็จลงมาโปรดไว้ได้ทันและกล่าวว่ากรรมใดใครก่อก็ย่อมเป็นกรรมของผู้นั้น อีกทั้งยังได้มอบคำภีร์อิ๋วหลานเผินให้ผู้เรียนท่องเพื่อเรียกเซียนทุกทิศทุกทางมาช่วยผู้มีพระคุณให้หลุดพ้นจากการอดอยากและทุกข์ทรมานต่าง ๆ นี้ได้ โดยที่ผู้เรียนจะต้องสวดคัมภีร์อิ๋วหลังเผินและถวายอาหารในทุกปีในเดือนที่ประตูนรกเปิด ซึ่งจะสามารถช่วยมารดาของเขาให้พ้นโทษได้นั่นเอง

            นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาชาวจีนจึงได้ถือให้ประเพณีนี้มีการเซ่นไหว้และต้องนำอาหารทั้งคาวหวาน รวมไปถึงกระดาษเงินกระดาษทองไปวางไว้ที่หน้าบ้านหรือตามทางแยกที่ไม่ไกลนักเพื่อเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของบรรดาวิญญาณเร่ร่อนที่กำลังจะผ่านมาใกล้ที่พักของตน นอกจากนี้วันสารทจีนยังเป็นวันแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษอีกด้วย จึงสามารถไขข้อสงสัยในเรื่องนี้ได้ว่าทำไมลูกหลานชาวจีนจึงให้ความสำคัญกับวันนี้เป็นพิเศษนั่นเอง

 

Share this story: